ในโลกดิจิทัลปัจจุบัน SEO (Search Engine Optimization) คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้บทความหรือเนื้อหาของคุณติดอันดับสูงบน Google ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเขียนเนื้อหา นักการตลาด หรือเจ้าของธุรกิจ การรู้จักวิธีการทำ SEO ผ่านบทความที่ดี จะช่วยเพิ่มการเข้าถึง (Traffic) และสร้างโอกาสในการแปลงผู้เข้าชมเป็นลูกค้าได้มากขึ้น บทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้ถึงขั้นตอนต่าง ๆ ในการเขียนบทความ SEO อย่างมีประสิทธิภาพที่ Google ชื่นชอบ วิธีการจะเป็นอย่างไรนั้น ติดตามไปพร้อมกันได้เลย
หากท่านใดสนใจต้องการมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง เราช่วยได้ FIRSTRANK+ บริการรับทำเว็บ WordPress ทุกรูปแบบ
สารบัญ
บทความ SEO (Content SEO) คืออะไร ?
บทความ SEO หรือ Content SEO คือ การเขียนเนื้อหาที่มีการวางแผนและจัดรูปแบบตามหลักการของ Search Engine Algorithm โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ Bot ของ Search Engine สามารถเก็บข้อมูลและเข้าใจบทความได้ง่ายขึ้น กระบวนการนี้จะช่วยให้ Google สามารถจัดหมวดหมู่บทความได้อย่างถูกต้อง ทำให้บทความของเราปรากฏในหน้าผลการค้นหาตาม Intent ของคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง
การทำ SEO ผ่านบทความ VS การทำ SEO โดยทั่วไป ต่างกันอย่างไร ?
7 เทคนิคในการเขียนบทความ SEO ให้ปัง
1. ค้นคว้าและเลือกคีย์เวิร์ดอย่างเหมาะสม
การเลือกคีย์เวิร์ดเป็นพื้นฐานสำคัญในการทำ SEO คุณควรเลือกคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาของบทความและมีการค้นหาในระดับที่เหมาะสม เพื่อค้นหาคีย์เวิร์ดได้ คุณสามารถใช้เครื่องมืออย่าง Google Keyword Planner, Ubersuggest หรือ Ahrefs
- เลือกคีย์เวิร์ดหลักและรอง
- ใช้คีย์เวิร์ดที่มี Long-tail ซึ่งมีโอกาสการแข่งขันน้อยแต่ตรงกลุ่มเป้าหมาย
- ไม่ใส่คีย์เวิร์ดมากเกินไปจนกลายเป็น “คีย์เวิร์ดสแปม”
2. การเขียนหัวข้อ (Title) ที่ดึงดูดและใส่คีย์เวิร์ด
หัวข้อของบทความควรดึงดูดความสนใจของผู้อ่านและต้องสื่อถึงเนื้อหาที่กำลังจะพูดถึง คีย์เวิร์ดหลักควรปรากฏในหัวข้อ และควรอยู่ต้นๆ ของประโยค
- หลีกเลี่ยงการใช้หัวข้อที่ซ้ำซากหรือน่าเบื่อ
- ใช้คำถามหรือเลขในหัวข้อ เช่น “7 เทคนิคในการเขียน SEO ที่คุณควรรู้”
- รักษาความยาวของหัวข้อไม่ให้เกิน 60 อักขระ เพื่อให้พอดีในหน้าผลการค้นหา
3. เขียน Meta Description ให้กระชับและตรงประเด็น
Meta Description คือคำอธิบายสั้นๆ ที่แสดงใต้หัวข้อในผลการค้นหา ควรเขียนให้กระชับ ดึงดูดความสนใจ และมีคีย์เวิร์ดอย่างน้อย 1 คำ คำอธิบายนี้ควรยาวประมาณ 150-160 ตัวอักษร
- ใช้ข้อความที่กระตุ้นให้คนคลิก เช่น “ค้นพบเคล็ดลับดีๆ ในการ…”
- อย่าใส่คีย์เวิร์ดมากเกินไปจนอธิบายไม่ชัดเจน
- ใส่คีย์เวิร์ดหลักและทำให้เป็นธรรมชาติ
4. จัดโครงสร้างบทความด้วยหัวข้อย่อย (H2, H3)
การใช้หัวข้อย่อย (Heading) เช่น H2, H3 ช่วยให้บทความอ่านง่ายและสร้างโครงสร้างที่ดีสำหรับ SEO เครื่องมือค้นหาชอบบทความที่มีการจัดระเบียบ และผู้อ่านก็ชอบบทความที่ง่ายต่อการสแกน
- ใช้ H2 สำหรับหัวข้อหลัก และ H3 สำหรับหัวข้อย่อย
- ใส่คีย์เวิร์ดลงในหัวข้อย่อยบ้างเพื่อช่วย SEO
- หัวข้อย่อยช่วยแบ่งเนื้อหาให้อ่านง่ายขึ้นและเพิ่มโอกาสในการติดอันดับ
5. สร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์
เนื้อหาที่ดีและมีคุณค่าคือสิ่งที่ทำให้ผู้อ่านอยากกลับมาอ่านอีกครั้ง บทความควรมีข้อมูลที่ถูกต้อง ทันสมัย และตอบโจทย์ของผู้อ่าน
- ตอบคำถามหรือแก้ปัญหาที่กลุ่มเป้าหมายต้องการรู้
- ใส่ลิงก์ภายในที่เชื่อมโยงไปยังบทความอื่นๆ บนเว็บไซต์ของคุณ
- เนื้อหาควรยาวเพียงพอเพื่อครอบคลุมหัวข้อ (อย่างน้อย 800 คำขึ้นไป)
6. เพิ่มสื่อประกอบ เช่น รูปภาพ วิดีโอ และ Infographics
การเพิ่มรูปภาพ วิดีโอ หรือ Infographics ช่วยทำให้บทความน่าสนใจขึ้นและเพิ่มประสบการณ์การใช้งานของผู้อ่าน อย่าลืมใส่ Alt Text ที่มีคีย์เวิร์ดในรูปภาพด้วย เพื่อช่วยในการค้นหาผ่านรูปภาพ
- ใช้รูปภาพที่เกี่ยวข้องและมีความคมชัด
- ใส่ Alt Text เพื่อช่วย SEO และทำให้รูปภาพเข้าถึงได้
- การใช้วิดีโอหรือ Infographic ช่วยเสริมความเข้าใจในเนื้อหาได้มากขึ้น
7. ทำลิงก์ภายในและลิงก์ภายนอก (Internal & External Links)
การเชื่อมโยงบทความของคุณกับเนื้อหาภายในเว็บไซต์ (Internal Link) และแหล่งข้อมูลภายนอกที่น่าเชื่อถือ(External Link) ช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับบทความของคุณ
- Internal Link: เพิ่มโอกาสให้ผู้อ่านอยู่ในเว็บไซต์ของคุณนานขึ้น
- External Link: เชื่อมโยงกับเว็บไซต์ที่มีคุณภาพและเกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
- อย่าลืมใช้ anchor text ที่เหมาะสมและใส่คีย์เวิร์ดบ้างในลิงก์
ประโยชน์ของการทำ SEO ผ่านบทความ
การทำ SEO ผ่านบทความมีประโยชน์อย่างมากทั้งในด้านการตลาดและการสร้างความน่าเชื่อถือทางธุรกิจ โดยประโยชน์หลักๆ ของการทำบทความ ได้แก่
- เพิ่มการมองเห็นในเครื่องมือค้นหา
บทความที่เขียนตามหลัก SEO มีโอกาสติดอันดับสูงในหน้าผลการค้นหาของ Google หรือเครื่องมือค้นหาอื่นๆ ทำให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น - เพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ (Traffic)
เมื่อบทความของคุณติดอันดับดีในเครื่องมือค้นหา การเข้าชมเว็บไซต์ของคุณจะเพิ่มขึ้นจากการที่ผู้คนคลิกเข้ามาจากผลการค้นหา ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความสนใจในเนื้อหาของคุณ - สร้างความน่าเชื่อถือและความนับถือในอุตสาหกรรม
การมีบทความที่มีคุณภาพและมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ทำให้ผู้เยี่ยมชมเชื่อถือในข้อมูลที่คุณนำเสนอ และมองว่าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้น - เพิ่มอัตราการแปลงยอดขาย (Conversion Rate)
บทความที่เขียนอย่างมีกลยุทธ์ SEO สามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีความสนใจตรงกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ ซึ่งเพิ่มโอกาสในการแปลงผู้เข้าชมเป็นลูกค้าจริง - ลดค่าใช้จ่ายในการโฆษณา
การทำ SEO ผ่านบทความ สามารถช่วยลดการพึ่งพาการโฆษณาผ่านช่องทางเสียค่าใช้จ่าย เช่น Google Ads หรือ Facebook Ads เมื่อบทความของคุณติดอันดับดี จะมีการเข้าชมที่ไม่ต้องเสียค่าโฆษณาเพิ่มเติม - สร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าในระยะยาว
การทำ SEO ผ่านบทความ เป็นการลงทุนที่มีผลในระยะยาว เนื้อหาที่ติดอันดับดีสามารถนำผู้เข้าชมเข้ามาอย่างต่อเนื่องแม้เวลาผ่านไป ช่วยเพิ่มความมั่นคงให้กับเว็บไซต์ - ปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ (User Experience)
การเขียนบทความตามหลัก SEO ไม่ได้เน้นเพียงแค่เครื่องมือค้นหา แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้งานเว็บไซต์ได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการเข้าถึงเนื้อหาที่มีคุณภาพ อ่านง่าย และตอบโจทย์ความต้องการ