สารบัญ
13 คุณสมบัติที่ Website E-Commerce ควรมี เพื่อความสำเร็จทางธุรกิจ
1. ความสะดวกในการใช้งาน (User-Friendly)
สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการออกแบบเว็บไซต์คือการใช้งานที่ง่ายดาย โดย 76% ของผู้ใช้งาน คาดหวังให้เว็บไซต์ใช้งานง่าย สามารถค้นหาข้อมูลหรือเลือกซื้อสินค้าได้สะดวก ผลสำรวจจาก Hubspot ยังระบุว่า ความสวยงามของเว็บไซต์เป็นปัจจัยรองที่ผู้ใช้ให้ความสำคัญเพียง 10% เท่านั้น
ดังนั้น การออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์ให้เป็นระเบียบ เช่น การจัดหมวดหมู่สินค้าให้ชัดเจน และการทดสอบการใช้งานโดยให้ทีมงานหรือผู้ใช้งานจริงทดลองใช้ พร้อมนำคำแนะนำมาปรับปรุง จะช่วยให้เว็บไซต์ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดีที่สุด
2. รองรับการใช้งานบนมือถือ (Mobile-Friendly Website)
กว่า 50% ของการซื้อสินค้าออนไลน์ เกิดขึ้นผ่านมือถือ ดังนั้นเว็บไซต์ eCommerce ควรรองรับการใช้งานผ่านอุปกรณ์พกพาด้วยการออกแบบให้เป็น Responsive Website ที่ปรับขนาดและรูปแบบได้เหมาะสมกับทุกอุปกรณ์
นอกจากเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าแล้ว เว็บไซต์ที่รองรับการใช้งานผ่านมือถือยังช่วยเพิ่มโอกาสในการจัดอันดับที่ดีบน Google ด้วย
3. ภาพประกอบที่คมชัดและน่าสนใจ
ภาพสินค้าไม่ควรแค่ “ดูได้” แต่ต้อง คมชัด ดึงดูดความสนใจ และให้ข้อมูลสินค้าในหลายมุมมอง การซูมภาพหรือการใช้ภาพที่แสดงสินค้าในสถานการณ์จริงจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย
อย่างไรก็ตาม ภาพที่มีคุณภาพสูงไม่ควรทำให้เว็บไซต์โหลดช้า ควรเลือกใช้ไฟล์ที่เหมาะสมเพื่อลดเวลาการโหลด เพราะ 39% ของลูกค้า มักละทิ้งเว็บไซต์ที่โหลดภาพนานเกินไป
4. โปรโมชั่นและข้อเสนอพิเศษ
การจัดแคมเปญลดราคา หรือโปรโมชั่นพิเศษ เช่น “ซื้อ 1 แถม 1” หรือ “ส่งฟรี” จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ ฟังก์ชันสำหรับการจัดโปรโมชั่นในเว็บไซต์จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับธุรกิจ eCommerce
5. ระบบตะกร้าสินค้าและการสั่งซื้อ (Cart & Checkout)
ระบบตะกร้าสินค้าต้องใช้งานง่ายและแสดงข้อมูลครบถ้วน เช่น รายละเอียดสินค้า ราคา ส่วนลด ค่าจัดส่ง รวมถึงขั้นตอนการสั่งซื้อที่ไม่ซับซ้อน เพื่อเพิ่มโอกาสในการปิดการขาย
6. ระบบค้นหาและกรองสินค้า (Search & Filter)
ฟีเจอร์ค้นหา (Search) และตัวกรอง (Filter) เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ลูกค้าค้นหาสินค้าได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อเว็บไซต์มีสินค้าหลากหลายประเภท
7. แนะนำสินค้าที่เกี่ยวข้อง (Related Products)
การแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้องช่วยเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้า เช่น หากสินค้าที่ต้องการหมดสต็อก ฟีเจอร์นี้จะช่วยนำเสนอสินค้าทางเลือกอื่น และเพิ่มโอกาสในการขาย
8. Social Proof หรือรีวิวสินค้า
รีวิวสินค้าเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า โดย 95% ของผู้ซื้อออนไลน์ อ่านรีวิวก่อนตัดสินใจซื้อ และกว่า 57% ของลูกค้า มักเลือกซื้อสินค้าที่มีคะแนนรีวิวตั้งแต่ 4 ดาวขึ้นไป
9. ความปลอดภัยของเว็บไซต์
เนื่องจากลูกค้าต้องชำระเงินผ่านเว็บไซต์ การรักษาความปลอดภัยจึงเป็นเรื่องสำคัญ การติดตั้ง SSL เพื่อเปลี่ยนเว็บไซต์เป็น HTTPS จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ รวมถึงป้องกันข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า
10. ช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย
เว็บไซต์ eCommerce ควรมีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย เช่น บัตรเครดิต บัตรเดบิต และการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้าทุกกลุ่ม
11. ข้อมูลการจัดส่งที่ครบถ้วน
รายละเอียดเกี่ยวกับการจัดส่ง เช่น ผู้ให้บริการขนส่ง ระยะเวลาการจัดส่ง และค่าขนส่ง เป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ นอกจากนี้ การให้บริการ จัดส่งฟรี ยังช่วยเพิ่มยอดขายได้ถึง 30%
12. หน้าติดต่อเรา (Contact Us)
หน้า Contact Us ที่ระบุข้อมูลการติดต่ออย่างชัดเจน เช่น เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ที่ตั้ง และการเชื่อมโยงกับ Google Maps จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์
13. นโยบายการคืนสินค้า (Return Policy)
การมีนโยบายคืนสินค้าอย่างชัดเจนจะช่วยสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า เช่น กำหนดเงื่อนไขการคืนสินค้าหรือการขอคืนเงิน พร้อมแสดงข้อมูลให้ลูกค้าทราบตั้งแต่แรก
