ผู้ให้บริการด้านการทำเว็บไซต์และการตลาดออนไลน์
  • หน้าแรก
  • »
  • บทความ
  • »
  • บริการรับออกแบบเว็บไซต์ ราคาถูก VS มืออาชีพ แบบไหนตอบโจทย์ธุรกิจของคุณ?

บริการรับออกแบบเว็บไซต์ ราคาถูก VS มืออาชีพ แบบไหนตอบโจทย์ธุรกิจของคุณ?

บริการรับออกแบบเว็บไซต์ ราคาถูก VS มืออาชีพ แบบไหนตอบโจทย์ธุรกิจของคุณ?
การขายของออนไลน์กำลังกลายเป็นหนึ่งในช่องทางทำธุรกิจที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเพราะความสะดวกที่ไม่ต้องมีหน้าร้าน ความสามารถในการเข้าถึงลูกค้าทั่วประเทศ (หรือแม้แต่ทั่วโลก) รวมถึงต้นทุนที่สามารถปรับให้เหมาะสมได้หลากหลาย การขายของแบบออนไลน์ช่วยให้หลายคนเปลี่ยนจากรายได้เสริมเป็นรายได้หลัก หรือแม้แต่กลายเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ก่อนเริ่มต้นเดินเส้นทางนี้ มีสิ่งสำคัญที่คุณต้องรู้และเตรียมพร้อม เพื่อให้สามารถเริ่มต้นอย่างมั่นใจ และลดความเสี่ยงที่จะพบกับปัญหาในอนาคต
และสำหรับผู้ประกอบการท่านใดที่สนใจหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างเว็บไซต์ e-commerce หรือการทำ SEO สามารถติดต่อเข้ามาสอบถามหรือขอคำปรึกษากับ FirstRank+ ได้เลย เรามีทีมงานที่เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ รับทำเว็บไซต์ธุรกิจและบริษัท รับทำเว็บ e-commerce อย่างครบวงจร

สารบัญ

อยากเริ่มต้นขายของออนไลน์ นี่คือ 7 ข้อสำคัญที่คุณต้องรู้และเตรียมพร้อม

1. ขายอะไรดี ?

การเลือกสินค้าถือเป็นหัวใจของการขายออนไลน์ เพราะสินค้าที่เหมาะสมไม่เพียงช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย แต่ยังช่วยให้คุณสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างตรงจุด

  • สำรวจตัวเอง: เริ่มต้นจากสิ่งที่คุณชอบ สนใจ หรือมีความรู้ เช่น เสื้อผ้า แก็ดเจ็ต เครื่องสำอาง หรือสินค้าแฮนด์เมด การขายสินค้าที่คุณรู้จักดีช่วยให้คุณอธิบายรายละเอียดสินค้าและตอบคำถามลูกค้าได้อย่างมั่นใจ
  • วิเคราะห์ตลาด: ศึกษาสินค้าที่เป็นที่ต้องการ เช่น สินค้าเทรนด์ใหม่ๆ หรือสินค้าที่มีความต้องการสูงและคู่แข่งไม่มาก ดูจากข้อมูลยอดขายในมาร์เก็ตเพลสหรือคำค้นหาที่ได้รับความนิยมใน Google Trends
  • กำหนดต้นทุนและกำไร: ประเมินราคาต้นทุนสินค้า ค่าขนส่ง ค่าโฆษณา และกำไรที่เหมาะสม เช่น หากลงทุนเริ่มต้นประมาณ 1,000–10,000 บาท คุณควรวางแผนให้ได้กำไรสุทธิที่สามารถนำกลับมาหมุนเวียนธุรกิจได้

ตัวอย่างการเริ่มต้น: หากคุณเริ่มต้นขายเสื้อผ้า อาจเลือกขายเฉพาะกลุ่ม เช่น เสื้อผ้าสำหรับวัยรุ่น หรือเสื้อผ้าสำหรับทำงาน พร้อมกับใช้คอนเทนต์ภาพถ่ายหรือวิดีโอรีวิวที่เน้นแสดงคุณสมบัติเด่นของสินค้า

7 เคล็ดลับสำคัญที่ต้องรู้ก่อน เมื่อคิดจะขายของออนไลน์

2. ขายที่ไหน ?

แพลตฟอร์มที่คุณเลือกขายจะส่งผลโดยตรงต่อความสำเร็จของธุรกิจออนไลน์ แต่ละแพลตฟอร์มมีข้อดีและข้อเสียต่างกันไป คุณจึงควรเลือกให้เหมาะสมกับสินค้าของคุณ

  • เว็บไซต์ของตัวเอง: การมีเว็บไซต์ช่วยให้คุณควบคุมการจัดการได้เองทั้งหมด ทั้งหน้าร้านและข้อมูลลูกค้า เช่น การตั้งราคาสินค้า การจัดโปรโมชั่น หรือการเก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อนำมาทำการตลาดต่อในอนาคต แต่ต้องมีต้นทุนในส่วนของการสร้างเว็บไซต์และค่าโฮสต์รายปี
  • มาร์เก็ตเพลส (Marketplace): Lazada, Shopee และ JD Central เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมที่ช่วยให้คุณเข้าถึงฐานลูกค้าขนาดใหญ่ได้ทันที แต่การขายผ่านมาร์เก็ตเพลสต้องแข่งขันกับผู้ขายรายอื่น รวมถึงต้องมีการทำโปรโมชั่นที่น่าสนใจ เช่น ส่วนลดหรือส่งฟรี เพื่อดึงดูดลูกค้า
  • โซเชียลมีเดีย (Social Media): Facebook, Instagram และ LINE เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงกลางที่ต้องการสร้างความสัมพันธ์โดยตรงกับลูกค้า คุณสามารถสร้างเพจ โพสต์คอนเทนต์ และตอบคำถามลูกค้าได้ทันที

คำแนะนำ: หากคุณเริ่มต้นใหม่ อาจเริ่มจากโซเชียลมีเดียและมาร์เก็ตเพลสก่อน แล้วค่อยขยับไปสร้างเว็บไซต์ของตัวเองเมื่อธุรกิจเริ่มเติบโต

3. โปรโมตอย่างไรให้ได้ผล

การโปรโมตสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย

  • รู้จักกลุ่มเป้าหมาย: คุณควรรู้ว่าลูกค้าของคุณคือใคร เช่น เพศ อายุ รายได้ และพฤติกรรมการซื้อ
  • เลือกช่องทางโฆษณาที่เหมาะสม: การยิงโฆษณาผ่าน Facebook Ads และ Google Ads ช่วยให้คุณกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจน เช่น โฆษณาเสื้อผ้ากลุ่มวัยรุ่นในช่วงอายุ 18–25 ปี
  • สร้างคอนเทนต์ที่ดึงดูด: ใช้ภาพถ่ายคุณภาพสูง วิดีโอรีวิวสินค้า หรือไลฟ์สดขายสินค้าเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ

เคล็ดลับ: เริ่มต้นโฆษณาด้วยงบประมาณเล็กๆ เช่น 300–500 บาทต่อวัน และวัดผลตอบรับเพื่อปรับปรุงแผนการตลาด

7 เคล็ดลับสำคัญที่ต้องรู้ก่อน เมื่อคิดจะขายของออนไลน์

4. ดูแลลูกค้าอย่างไรให้ประทับใจ

บริการลูกค้าเป็นสิ่งที่ช่วยสร้างความประทับใจและทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ

  • ตอบคำถามรวดเร็ว: ลูกค้าออนไลน์มักไม่ชอบการรอคอย คุณควรตอบคำถามหรือข้อความภายในไม่กี่นาที
  • ใช้เทคโนโลยีช่วย: หากคุณไม่สามารถตอบคำถามเองได้ตลอดเวลา ให้ใช้แชทบอทที่สามารถตอบคำถามเบื้องต้น เช่น ข้อมูลสินค้า ราคา หรือวิธีการจัดส่ง
  • ติดตามหลังการขาย: แจ้งสถานะการจัดส่งหรือส่งข้อความขอบคุณเมื่อการสั่งซื้อเสร็จสมบูรณ์

เคล็ดลับ: สร้างระบบสมาชิกหรือสะสมแต้มเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่ามีสิทธิพิเศษ

5. ช่องทางชำระเงินที่หลากหลาย

การมีช่องทางชำระเงินที่หลากหลายช่วยลดโอกาสที่ลูกค้าจะละทิ้งตะกร้าสินค้า

  • รองรับทั้งการโอนผ่าน Mobile Banking, e-Wallet เช่น TrueMoney Wallet หรือบัตรเครดิต/เดบิต
  • เพิ่มตัวเลือกการชำระเงินผ่านเกตเวย์ เช่น Rabbit LINE Pay หรือ Paypal เพื่อความสะดวก

ข้อแนะนำ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบชำระเงินปลอดภัยและมีการแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อได้รับยอดเงิน

7 เคล็ดลับสำคัญที่ต้องรู้ก่อน เมื่อคิดจะขายของออนไลน์

6. การจัดส่งสินค้า

ระบบการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็วและเชื่อถือได้ช่วยสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า

  • เลือกผู้ให้บริการขนส่งที่เหมาะสม เช่น Kerry Express, Flash Express หรือไปรษณีย์ไทย
  • คำนวณค่าขนส่งล่วงหน้าและแจ้งให้ลูกค้าทราบก่อนยืนยันการสั่งซื้อ
  • ใช้โปรโมชั่นส่งฟรีเพื่อเพิ่มยอดขาย โดยรวมค่าขนส่งไว้ในราคาสินค้า

เคล็ดลับ: ใช้ระบบติดตามพัสดุที่แจ้งสถานะให้ลูกค้าได้ทราบตลอดเวลา

7. ภาษีและข้อกฎหมายที่ควรรู้

การขายของในโลกออนไลน์จำเป็นต้องยื่นภาษีเหมือนธุรกิจทั่วไป

  • หากมีรายได้ถึงเกณฑ์ที่กำหนด คุณต้องยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.90 หรือ ภ.ง.ด.94)
  • สำหรับร้านค้าที่จดทะเบียนบริษัท คุณต้องยื่นภาษีนิติบุคคลพร้อมทั้งจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)

คำแนะนำ: หากไม่มั่นใจเรื่องภาษี ควรปรึกษานักบัญชีหรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากกรมสรรพากร

บทสรุป

การขายของออนไลน์ไม่ใช่แค่การโพสต์ขายสินค้าและรอลูกค้า คุณต้องเตรียมตัวอย่างรอบคอบ ตั้งแต่การเลือกสินค้า การโปรโมต การจัดส่ง ไปจนถึงการดูแลลูกค้าและปฏิบัติตามข้อกฎหมาย การวางแผนที่ดีและความใส่ใจในรายละเอียดจะช่วยให้คุณสามารถสร้างรายได้และเติบโตในธุรกิจนี้ได้อย่างยั่งยืน

บทความที่เกี่ยวข้อง