ผู้ให้บริการด้านการทำเว็บไซต์และการตลาดออนไลน์

สินค้าและบริการของ FirstRankPlus

On-Page SEO คืออะไร ? 10 วิธีทำอย่างไรให้เว็บไซต์ติดอันดับ

On-Page SEO คืออะไร ? ทำอย่างไรให้เว็บไซต์ติดอันดับ

ในยุคปัจจุบันที่มีการแข่งขันในการทำธุรกิจออนไลน์มากขึ้น การทำ On-Page SEO เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลยเลย การทำ On-Page นั้นมีหลายปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งต้องให้ความสำคัญ และปรับปรุงให้เหมาะสม โดยเหตุผลที่ทำให้การทำ On-Page มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเมื่อเราทำ On-Page อย่างดีและมีความเหมาะสม จะสามารถช่วยให้เว็บไซต์ของเรามีโอกาสติดอันดับสูงขึ้นและเป็นที่นิยมในการค้นหา ตั้งแต่ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ ไปจนถึงอัลกอริทึมของเครื่องมือค้นหา และเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจออนไลน์ โดยจะมีปัจจัยอะไรบ้างนั้น FirstRankPlus ได้นำมาสรุปไว้แล้ว ไปดูกันเลย

สารบัญ

On-Page SEO คืออะไร ?

On-Page SEO คือ กระบวนการปรับแต่งเว็บไซต์เพื่อให้เนื้อหา และโครงสร้างของเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้ใช้ และเครื่องมือค้นหา เช่น Google เพื่อให้เว็บไซต์สามารถติดอันดับในผลการค้นหาได้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มโอกาสในการเสริมสร้างการเยี่ยมชมเว็บไซต์และเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าหรือบริการของเรา

ทำ On-Page SEO อย่างไรให้เว็บไซต์ติดอันดับ ?

ในฐานะของเจ้าของเว็บไซต์ หรือคนทำ SEO การทำ On-Page มีหลายขั้นตอนที่จำเป็นต้องทำ เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา อย่างเช่น Google และช่วยเพิ่มโอกาสในการเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ โดยมีขั้นตอนสำคัญที่ควรทำ ดังนี้
seo3

1. การทำคอนเทนต์

สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ ตรงตามหลัก E-A-T Content โดยมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ มีความน่าสนใจให้กับผู้อ่าน และเนื้อหาควรเป็นเนื้อหาที่ตอบโจทย์คำค้นหาของผู้ใช้ และมีความสอดคล้องกับหัวข้อหลักของเว็บไซต์

2. การใส่แท็ก (Tag)

ใส่แท็กต่างๆ เช่น Header Tags (H1, H2, H3) และแท็กที่เกี่ยวข้องภายในเนื้อหา เพื่อช่วยให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจโครงสร้างเนื้อหาของเว็บไซต์

3. การเชื่อมต่อลิงก์ URL

ใส่ลิงก์ที่เกี่ยวข้องในเนื้อหา เช่น ลิงก์ไปยังเนื้อหาที่เกี่ยวข้องภายในเว็บไซต์ (Internal Link) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้และเครื่องมือค้นหาเข้าใจว่าหน้าเพจของคุณมีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร และสร้างลิงก์ออกไปยังเว็บไซต์อื่นที่เกี่ยวข้อง (External Link)

4. การปรับแต่งเว็บไซต์

ปรับแต่งรูปแบบและโครงสร้างหน้าเพจให้มีความเรียบง่ายและอ่านง่าย เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจเนื้อหา หรือใช้งานเว็บไซต์ได้อย่างสะดวก 

5. การใช้ Meta Description

เขียน Meta Description หรือคำอธิบายเว็บเพจแบบสั้นๆ ที่มีความน่าสนใจและอธิบายภาพรวมของเนื้อหาให้กับผู้ใช้ว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องใด เนื้อหาใน Meta Description จึงควรสอดคล้องกับเนื้อหาในหน้าเพจ

6. การใช้ URL ที่สื่อความหมาย

ควรตั้ง URL หรือชื่อของที่อยู่เว็บไซต์ ให้เป็นคำที่อ่านออก และไม่ยาวจนเกินไป เพื่อให้ผู้ใช้งาน และเครื่องมือค้นหาเข้าใจ และสามารถจดจำได้ง่าย การตั้งชื่อที่อยู่เว็บไซต์ที่มีความสั้น และกระชับจะช่วยให้ผู้ใช้งานจำได้ และง่ายต่อการแชร์ลิงก์ไปให้เพื่อน ๆ หรือบนสื่อโซเชียล

7. การปรับแต่งรูปภาพ

การใส่รูปภาพในหน้าเพจ และในเนื้อหาบนเว็บไซต์ เป็นสิ่งที่ทำให้เนื้อหาดูน่าสนใจ ควรปรับขนาดให้เหมาะสมกับการแสดงผลในหน้าเพจ และใส่ข้อความคำอธิบายรูปภาพใน Alternative text หรือ Alt text ของรูปภาพ รวมถึงการตั้งชื่อรูปภาพ และการเลือกนามสกุลของรูปภาพให้เหมาะสม เพื่อให้ Google Bot เข้าใจเนื้อหาที่อยู่ในภาพ และรูปภาพโหลดได้รวดเร็ว

8. การปรับความเร็วในการโหลดหน้าเว็บไซต์

ตรวจสอบและปรับปรุงความเร็วในการโหลดหน้าเพจของเว็บไซต์ (PageSpeed Insights) เนื่องจากความเร็วในการโหลดนั้นส่งผลต่อประสบการณ์ในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของผู้ใช้งาน ซึ่งผู้ใช้งานไม่ต้องรอควรเกิน 3-5 วินาที เพราะการใช้งานเว็บไซต์ที่โหลดช้าอาจทำให้ผู้ใช้ไม่รอ และจะไม่เกิดการเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ

9. การใช้คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง

ควรใช้คำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อหรือเนื้อหาของคุณ เป็นสิ่งที่สำคัญในการทำ SEO (Search Engine Optimization) เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับ แต่ต้องใช้งานโดยธรรมชาติ ไม่ควรใช้งานเพื่อเพิ่มจำนวนคำค้นหาเท็จ เนื่องจากอาจถูกมองว่าเป็นสแปมได้ นอกจากนี้ ควรมีลักษณะต่าง ๆ เพื่อรองรับการค้นหาแบบที่หลากหลายจากผู้ใช้งานด้วย

10. การแสดงผลบนมือถือ

ในปัจจุบัน คนใช้ Google เพื่อค้นหาสิ่งต่าง ๆ ด้วยโทรศัพท์มือถือ หากผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงเนื้อหาเว็บไซต์ของคุณได้ง่ายและสะดวก จะสามารถเพิ่มโอกาสในการเพิ่มจำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ ซึ่งเครื่องมือค้นหาได้ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ที่เป็น Responsive Web Design ในการจัดอันดับเว็บไซต์

บทสรุป

การทำ On-Page เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลา เป็นการลงมือทำอย่างรอบคอบ และต้องใส่ใจในรายละเอียดในการปรับแต่งเนื้อหาและโครงสร้างของเว็บไซต์เพื่อให้เหมาะสมกับผู้ใช้และเครื่องมือค้นหาต้องทำหลายอย่างประกอบกันไป ไม่ว่าจะเป็น การทำ Keyword Research การเลือก Main Keyword ที่เหมาะสมในเนื้อหา การเขียนเนื้อหาที่มีคุณภาพ การสร้างลิงก์ภายในเว็บไซต์ และลิงก์ไปยังเว็บไซต์อื่น ๆ การเพิ่มรูปภาพ และวิดีโอ การให้ความสำคัญในการสร้าง URL และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

การทำ On-Page SEO เป็นสิ่งที่จำเป็นในการปรับแต่งเว็บไซต์ เพราะสามารถช่วยให้คุณเพิ่มโอกาสในการติดอันดับในผลการค้นหามากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งานเว็บไซต์ของคุณ ทำให้เว็บไซต์ของเราน่าเชื่อถือและเป็นที่น่าสนใจในสายตาของผู้ใช้งานที่เยี่ยมชมเว็บไซต์

บทความที่เกี่ยวข้อง