ผู้ให้บริการด้านการทำเว็บไซต์และการตลาดออนไลน์

สินค้าและบริการของ FirstRankPlus

รหัสแทนข้อมูล ASCII คืออะไร ?

รหัสแทนข้อมูล ASCII คืออะไร ?
ในบทความนี้จะมาแนะนำถึงความหมายของรหัส ASCII ว่าคืออะไร ? และมีประวัติความเป็นมาอย่างไร ?เพราะในปัจจุบันนี้เราสามารถสื่อสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์และเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์และเว็บไซต์ได้ด้วยการส่งและรับข้อมูลที่ถูกแปลงเป็นรหัสแทนข้อมูล โดยระบบคอมพิวเตอร์จะทำการอ่านและแปลงรหัสกลับเป็นข้อมูลทางภาษาเมื่อได้รับข้อมูลมาเพื่อให้ประมวลผลข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สารบัญ

รหัส ASCII คืออะไร ?

American Standard Code for Information Interchange หรือ ASCII คือรหัสมาตรฐานของสหรัฐอเมริกาที่มีไว้สำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางดิจิตอล เป็นรหัสมาตรฐานที่ใช้ในการแปลงค่าตัวเลขฐานสิบหก (HEX code) เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษและสัญลักษณ์พิเศษ ซึ่งประกอบด้วยอักขระพื้นฐานที่มีค่าในรูปแบบตัวเลข 8 บิต (bit) ตั้งแต่ 0 ถึง 127 โดยใช้รหัสที่ไม่ซ้ำกันสำหรับแต่ละตัวอักษร 

ASCIITable

โดยในแต่ละอักขระก็จะมีค่าที่แตกต่างกันออกไป มีการกำหนดค่าให้แก่ตัวอักษรพิมพ์เล็กและพิมพ์ใหญ่ตั้งแต่ A ถึง Z, a ถึง z รวมถึงตัวเลข 0 ถึง 9 และสัญลักษณ์พิเศษต่าง ๆ เช่น !, @, #, $, %, ฯลฯ โดยค่ารหัส ASCII ที่กำหนดให้ในแต่ละตัวอักษรจะถูกใช้ในการแสดงผลและใช้สื่อสารข้อมูลในระบบดิจิตอลทั่วไป

รหัส ASCII มีประวัติความเป็นมาอย่างไร ?

ASCII2

รหัส ASCII ถูกพัฒนาขึ้นโดยองค์กรมาตรฐานสหรัฐอเมริกา (ANSI) ในปี 1963 และได้รับการปรับปรุงให้เหมาะสมกับคอมพิวเตอร์ในยุคนั้น เป็นระบบรหัสที่ใช้ในการแทนตัวอักษรและสัญลักษณ์ทางอักษรที่ใช้ในระบบคอมพิวเตอร์

รหัสแทนข้อมูล ASCII มีประโยชน์สำคัญในการรับส่งข้อมูลและแสดงผลในระบบคอมพิวเตอร์ เนื่องจากคอมพิวเตอร์เข้าใจและประมวลผลข้อมูลในรูปแบบของตัวเลขได้เท่านั้น ดังนั้น เราจำเป็นต้องแปลงข้อมูลทางภาษาที่มนุษย์เข้าใจ โดยเมื่อเราแปลงข้อมูลทางภาษาเป็นรหัส เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถใช้รหัสนั้นในการจัดเก็บ ส่ง และประมวลผลข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการแสดงผลข้อมูลทางภาษาบนหน้าจอหรืออุปกรณ์อื่น ๆ

รหัส ASCII มีข้อจำกัดอย่างไร ?

ASCII1

ข้อจำกัดการใช้รหัสแทนข้อมูล ASCII คือการจำกัดความหมายของตัวอักษรและสัญลักษณ์เพียง 128 ตัวอักษรที่สามารถรองรับได้ ซึ่งเหมาะสำหรับภาษาอังกฤษและสัญลักษณ์พื้นฐานเท่านั้น ซึ่งอาจจำกัดความสามารถในการแสดงผลและการแลกเปลี่ยนข้อมูลในรูปแบบที่ซับซ้อนได้ อีกทั้งไม่สามารถรองรับการเข้ารหัสภาษาที่มีอักขระหลากหลายมาก เช่น ภาษาไทยที่มีตัวอักษรจำนวนมาก เราจึงมีความจำเป็นต้องพิจารณาใช้ระบบการแทนรหัสข้อมูลประเภทอื่น ๆ ที่สามารถรองรับความหลากหลายและความซับซ้อนของข้อมูลได้เพื่อรับส่งข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้อง

เมื่อเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เริ่มพัฒนาต่อไป ระบบรหัสแทนข้อมูล Unicode ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับภาษาที่หลากหลาย รวมถึงภาษาที่มีอักขระพิเศษและสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่ไม่อยู่ในชุดรหัส ASCII เนื่องจากนักพัฒนาภาษาและผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ต้องการรองรับภาษาที่หลากหลายมากขึ้น

ในปัจจุบัน รหัส ASCII ยังคงใช้งานร่วมกับระบบรหัส Unicode เพื่อให้สามารถแสดงผลตัวอักษรและสัญลักษณ์ที่หลากหลายจากทุกภาษาได้ รหัส ASCII ถูกใช้ในส่วนของรหัสแรก 128 ตัวอักษรของระบบรหัส Unicode ซึ่งเป็นรหัสเดียวกันกับรหัส ASCII ที่เครื่องคอมพิวเตอร์ใช้งานอยู่

บทสรุป

รหัส ASCII เป็นระบบรหัสแทนข้อมูลที่เก่าแก่และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายและกลายเป็นมาตรฐานทั่วโลกในยุคเริ่มแรกของคอมพิวเตอร์ แต่เนื่องจากรหัส ASCII มีความจำเป็นเพียงพอต่อการแทนตัวอักษรและสัญลักษณ์ในภาษาอังกฤษเท่านั้น จึงได้มีการพัฒนาระบบการแทนรหัสข้อมูลอื่น ๆ ที่สามารถใช้รองรับภาษาที่หลากหลายมากขึ้นในปัจจุบัน แต่รหัส ASCII ยังคงเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์

บทความที่เกี่ยวข้อง